วิธีรักษาฝ้ากระให้หายขาด บอกลาปัญหาผิวที่กวนใจสาว ๆ มากที่สุด
ฝ้า หรือ กระ เป็นอีกหนึ่งปัญหาผิวที่กวนใจเหล่าสาว ๆ มากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นอีกหนึ่งอุปสรรค บดบังความสวยงาม พร้อมทั้งปัญหาเรื่องการแต่งหน้า ที่จะต้องยากขึ้นมากกว่าเดิมด้วย แต่ทว่าวิธีรักษา หรือ วิธีดูแลผิว ก็มีหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นวิธีการทางธรรมชาติ หรือ การใช้ครีมลดฝ้า กระ รวมไปถึงการดูแลผิวในแบบฉบับที่ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะเห็นผล หรือ บางคนจะต้องเสียเงินไปทำเลเซอร์ ในคลินิกเสริมความงาม วันนี้มีหลายรูปแบบ แต่ถ้าจะรักษาให้หายขาด บอกเลยว่าคุณเองก็ทำได้ ซึ่งวันนี้พวกเราจะพาไปรู้จักกับปัญหาผิวที่พูดถึงอยู่นี้ ทั้งสาเหตุ วิธีรักษาฝ้ากระให้หายขาด พร้อมทั้งเผยเคล็ดลับการดูแลผิวหน้า ผิวกาย ให้ดูสวยสดใส อย่างสม่ำเสมอ ติดตามอ่านกันได้ในบทความนี้
ฝ้า กระ เกิดขึ้นได้อย่างไร
ปัญหาเรื่องผิวหน้า เป็นอะไรที่ค่อนข้างลำบากใจสำหรับสาว ๆ ที่รักสวย รักงาม หรือ ดูแลผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอ แน่นอนเลยว่า ฝ้า หรือ กระ มักจะเป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญ ที่ทำให้คุณหนักใจ ก่อนอื่นเลยต้องขอบอกสาเหตุของการเกิดฝ้า พร้อมทั้งประเภทของฝ้า จะมีดังต่อไปนี้
การเกิดฝ้า
ฝ้า Melasma จะเกิดจากปัญหาผิวหน้าที่มีเซลล์เม็ดสีใต้ชั้นผิวหนัง หรือ เม็ดสีเมลานินทำงานผิดปกติ ซึ่งจะมีสาเหตุหลักที่ทำให้เม็ดสีทำงานผิดปกตินั่นก็คือ “รังสียูวี” หรือ “แสงแดด” นั่นเอง เมื่อเม็ดสีเมลานินที่ทำหน้าที่กรองรังสียูวี จากแสงแดด ได้รับแสงแดดมากเกินไป ตัวของเมลานินจึงต้องป้องกันผิวด้วยการผลิตออกมามากขึ้น จึงเกิดเป็นฝ้า ที่มีลักษณะสีดำอมน้ำตาล อาจจะเข้มกว่าสีผิว หรือ อาจจะขึ้นเป็นแถบ หรือ ปื้น บริเวณใบหน้านั่นเอง โดยส่วนที่เกิดขึ้นบ่อยก็คือ โหนกแก้ม รวมทั้งบริเวณอื่น เช่น หน้าผาก จมูก เหนือคิ้ว และ ริมฝีปากด้วย โดยฝ้าที่เกิดขึ้นบริเวณใบหน้า จะแบ่งเป็น 4 ประเภทก็คือ
- ฝ้าแบบลึก จะมีลักษณะ สีน้ำตาล อมฟ้า จะอยู่ในระดับที่ลึกกว่าผิวหนังกำพร้า พร้อมทั้งความลึกจะทำให้เกิดสีออกมาเป็นสีน้ำตาลอมฟ้า หรือ อมม่วง จัดได้ว่าอยู่ในประเภทที่รักษาได้ยากแล้ว
- ฝ้าแบบตื้น จะมีลักษณะเป็นสีน้ำตาล มีขอบชัด จะอยู่ในระดับผิวหนังกำพร้า หรือ ผิวหนังชั้นนอก การรักษายังทำได้ง่ายอยู่ แต่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน
- ฝ้าผสม จะเป็นฝ้าแบบตื้น กับ แบบลึก ผสมกัน ซึ่งจะพบเจอได้มากที่สุดในผู้ที่พบเจอปัญหาเรื่องฝ้าบ่อย
- ฝ้าที่แยกไม่ได้ ในลักษณะนี้จะแยกฝ้าออกไม่ได้ว่าเป็นฝ้าแบบลึก หรือ แบบตื้น แต่ก็จะพบในหมู่คนผิวสีซะส่วนใหญ่ โดยจะแบ่งออกเป็น ฝ้าแดด กับ ฝ้าเลือด
จะเห็นได้ว่าประเภทของฝ้าที่หลากหลาย เกิดขึ้นได้หลายกรณี ตัวอย่างเช่นบางรายก็เพิ่งจะเริ่มเป็น ส่วนบางรายเริ่มเป็นแล้วไม่ได้รักษาทันที ก็จะทำให้จัดอยู่ในลักษณะฝ้าลึก ซึ่งรักษาได้ยาก
การเกิด กระ
การเกิด กระ จะแตกต่างกันคือ ลักษณะของกระ จะเป็นจุดเล็ก ๆ สีน้ำตาลอ่อน กระจายตัวอยู่ตามผิวหนังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย สาเหตุก็คือ เกิดจากที่เซลล์สร้างเม็ดสี หรือ เมลานิน ทำงานผิดปกติ จึงเกิดการสร้างเม็ดสีมากขึ้น เกิดเป็นริ้วรอย พร้อมกับจุดด่างดำเล็ก ๆอีกด้วย นอกจากนั้นแล้วยังมีอีกหลายเหตุผลเลยที่ทำให้เกิด “กระ” ซึ่งมีดังต่อไปนี้
- พันธุกรรม เป็นสิ่งที่ลูกหลานจะหนีไม่พ้น เพราะการสืบทอดทางพันธุกรรม ก็มักจะตามมาหลายโรค ซึ่งมีโอกาสเกิด กับ ไม่มีโอกาสเกิดก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นแล้ว ไม่ว่าโดนแสงแดดมากน้อยเท่าไหร่ แต่ถ้ามีเชื้อที่จะเกิด “กระ” ยังไงก็มีโอกาสที่จะเป็นแน่นอน
- สาเหตุเรื่องอายุ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน เพราะอายุที่มากขึ้นทุกปี สำหรับวัยทำงาน เข้าสู่วัยทอง และ วัยชรา เรื่องการเกิดกระ จะดูเป็นเรื่องปกติไปเลยในทันที อีกทั้งมีโอกาสที่เป็น “กระเนื้อ” ที่มีสีเข้ม มีลักษณะนูนขึ้นด้วย
- สภาพแวดล้อม แสงแดด การเกิดกระ จะมาพร้อมกับ ฝ้า ซึ่งเกิดจากสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี เช่น มีมลพิษ สารเคมี หรือ อาการที่ร้อนจัด การแพ้เหงื่อ หรือ แพ้ฝุ่น ทุกสาเหตุเกิดขึ้นได้ อีกทั้งการได้รับรังสียูวี จากแสงแดดอยู่บ่อย ๆ ก็ทำให้เกิดกระได้เช่นเดียวกัน
ความแตกต่าง ระหว่าง ฝ้า และ กระ
ถ้าอ่านมาถึงจุดนี้จะเข้าใจได้ว่า ความแตกต่างของฝ้า กับ กระ จะมีลักษณะที่แตกต่างกันได้อย่างชัดเจน โดยทางตัวของฝ้า จะมีลักษณะเป็น สีดำอมน้ำตาล อาจจะเข้มกว่าสีผิว หรือ อาจจะขึ้นเป็นแถบ หรือ ปื้น บริเวณใบหน้า เกิดขึ้นได้จากการรับรังสียูวี หรือ แสงแดดที่มากเกินไป
ส่วนทางด้านของ การเกิด “กระ” มีลักษณะเป็นจุดเล็ก ๆ กลม ๆ ทั่วไปหน้ากระจายกัน มีสีน้ำตาลอ่อน ขอบชัดเจน ส่วนการเกิดก็จะมีด้วยกันหลายสาเหตุ เริ่มจากการถูกแสงแดดมากเกินไป รวมทั้งปัจจัยสภาพแวดล้อม สารเคมี ที่สำคัญ การเกิดขึ้นจากพันธุกรรม หรือ อายุที่มากขึ้น ก็ทำให้เกิดกระด้วยเช่นเดียวกัน นี่แหละคือข้อแตกต่าง
วิธีรักษาฝ้า
การรักษาฝ้าทำได้ แต่สิ่งที่ทำไม่ได้ก็คือ การรักษาให้หายขาด ไม่กลับมาเป็นอีกครั้งนั้นยังทำไมได้ แต่ถ้าจะทำให้จางลงนั้น สามารถทำได้ โดยฝ้าที่เกิดจากฮอร์โมน ตัวอย่างเช่น ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ หรือ การทานยาคุมกำเนิด หรือ ได้รับการรักษาด้วยการใช้ฮอร์โมน ซึ่งการรักษาฝ้านั้นจะต้องค่อยทำไปทีละขั้นตอน ถึงจะเห็นผลชัดเจน โดยมีการรักษาดังต่อไปนี้
- การรักษาด้วยการใช้ยา จะเป็นการใช้ยาในรูปแบบของครีมรักษาฝ้า ส่วนผสมที่จะช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสี ตัวอย่างเช่น ยากรดวิตามินเอ กับ ยาในกลุ่มทรานิซามิก จะเป็นครีมที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ ซึ่งจะช่วยให้ ฝ้าลดลง แต่ทว่าครีมไวท์เทนนิ่งในแบบอื่น ๆ ก็ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ เพราะอาจจะทำให้ระคายเคืองต่อผิวได้
- การรักษาด้วยเลเซอร์ผลัดเซลล์ผิวหนัง นับได้ว่าเป็นการรักษาฝ้าแบบด่วน เห็นผลเร็ว ได้รับความนิยม แต่ทว่าผลของการรักษายังไม่แน่นอน เพราะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลที่จะหาย บางรายแค่จางลง แต่ไม่มากนัก
- รักษาฝ้า ด้วยสมุนไพร วิธีธรรมชาติ เป็นอีกหนึ่งทางแบบง่าย ๆ ในการผลัดเซลลืผิวหนัง กับ สมุนไพรที่มีคุณสมบัติผลัดเซลล์ผิว แต่ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ถ้าหากทำบ่อย ผิวก็จะแพ้ง่ายด้วย ต้องระวัง
- รักษาด้วยการฉีดวิตามินผิว หรือ การฉีดเมโสหน้าใส การรักษาด้วยวิธีแบบนี้ จะช่วยให้ผิวของคุณไม่คล้ำเสียง่าย รวมไปถึง ฟื้นฟูผิวในจุดที่เสียไป ลดการเกิดเม็ดสีเมลานิน ให้ผิวขาวกระจ่างใส เสริมสร้างคอลลาเจน เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ดูเป็นธรรมชาติ
วิธีรักษากระ
ก่อนที่จะทำการรักษากระ จะต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ตัวเรานั้นเกิดกระในระยะไหน ซึ่งมีตั้งแต่การรักษากระแบบตื้น,แบบลึก หรือ กระแดด เพราะแต่ละแบบถ้าจะให้จางลง ก็ต้องใช้การรักษาด้วยเลเซอร์เท่านั้น โดยมีข้อมูลจากการเลเซอร์มาแล้วดังนี้
- การรักษากระตื้น ด้วยเลเซอร์ จะใช้เลเซอร์รักษาเฉพาะเม็ดสี เพื่อทำลายเม็ดสีเมลานีน เฉลี่ยแล้วรักษา 3 ครั้ง ร่วมกับการใช้เลเซอร์ดึงเม็ดสีออก หรือ ใช้เลเซอร์ลดเม็ดสี เพื่อให้เม็ดสีนั้นจางลง ไม่กลับมาเข้มอีก
- การรักษากระลึก ด้วยเลเซอร์ ในกรณีที่กระลึก จะทำการรักษาค่อนข้างยาก ใช้เวลา ดังนั้นแล้วจะใช้เลเซอร์รักษาเม็ดสีเฉพาะ เข้าไปทำให้เม็ดสีนั้นแตกออกเป็นเม็ดเล็ก จากนั้นเม็ดเลือดขาวก็จะมากำจัดเม็ดสีตามธรรมชาติ โดยการรักษาเฉลี่ย 6 ครั้งขึ้นไป ร่วมกับการรักษาเลเซอร์ดึงเม็ดสีออก ส่งผลดีในระยะยาว
- การรักษากระแดด สามารถทำได้ด้วยการใช้เลเซอร์ดึงเม็ดสีออกเช่นเดียวกัน
สำหรับการรักษากระ จะมีความคล้ายกันกับ การรักษาฝ้า ซึ่งเป็นการใช้วิธีที่คล้ายกัน แต่ในตัวของกระจะมีการใช้เลเซอร์เพื่อรักษาแบบตรงจุด แต่ถ้าใครอยากที่จะหายแต่ใช้วิธีทางธรรมชาติ ก็ใช้เวลาในการรักษาสักหน่อย แต่ในปัจจุบันการทำเลเซอร์ก็ถือว่าได้รับการยอมรับว่า ฝ้า และ กระ จางลงได้อย่างแท้จริง
การป้องกันไม่ให้ฝ้าและกระเกิดขึ้นบนใบหน้า
เรื่องสุดท้ายของบทความนี้ ก็คือ การป้องกันไม่ให้ฝ้า หรือ กระ เกิดขึ้นบนใบหน้า เพราะใบหน้าคือจุดสำคัญสำหรับสาว ๆ เพราะไม่อยากจะให้เจ้าพวกนี้มากวนใจ แล้วจะต้องทำอย่างไรบ้างนั้น วันนี้พวกเรามีคำตอบมาบอก พร้อมกับ เคล็ดลับแนะนำ สาว ๆ ให้ผิวสุขภาพดีด้วย ซึ่งจะมีวิธีดังต่อไปนี้
วิธีป้องกันฝ้า กระ
การป้องกันฝ้า กระ ถ้าพูดกันให้เข้าใจง่ายก็คือ ต้องหลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้เกิด นั่นก็คือ รังสียูวี หรือ แสงแดด ทั้งแดดจัด หรือ แดดอ่อน ก็มีอันตรายทั้งนั้น ส่วนวิธีที่จะป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาผิวสุดกวนใจนี้ จะต้องทำตามวิธีดังต่อไปนี้
- ให้หลีกเลี่ยงแสงแดด เพราะแสงแดดในช่วง 10 โมงเช้า ไปจนถึง 4 โมงเย็นจัดได้ว่าเป็นช่วงที่มีรังสียูวีมาก ดังนั้นแล้ว เมื่อจะต้องมีความจำเป็นออกจากบ้าน ควรสวมหมวก เสื้อแขนยาว หรือ ใช้ผ้าคลุม ติดไปด้วย
- ครีมกันแดด สำคัญเสมอ นอกจากการใส่หมวก หรือ เสื้อแขนยาว ยังไม่พอ เพราะจะมีบางครั้งที่อาจจะถูกแสงแดดได้โดยตรง ดังนั้นการทาครีมกันแดด ที่มี SPF30+ ขึ้นไป ก็จะช่วยป้องกันรังสียูวีเอ ยูวีบี ที่เป็นสาเหตุของการเกิดฝ้าได้เป็นอย่างดี ส่วนครีมกันแดดยี่ห้อไหน ? หรือ ค่ายไหนก็ต้องศึกษาทุกครั้งด้วย เพราะส่วนผสมบางอย่างเราอาจจะเกิดอาการแพ้ได้
- ใส่ใจ ดูแลผิวหน้า สม่ำเสมอ วิธีนี้สำคัญมาก เพราะสุขภาพผิวหน้าจะดี ก็ต้องดูแลรักษา เติมอาหารให้ผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอ มีการบำรุงผิว ทั้งในรูปแบบของธรรมชาติ ก็คือการใช้ชีวิต การพักผ่อนให้เพียงพอ ก็ส่งผลให้สุขภาพผิวดีเช่นเดียวกัน
- หลีกเลี่ยงยา กับ ฮอร์โมนที่เป็นต้นเหตุของการเกิดฝ้า การกินยาคุมกำเนิด เป็นสาเหตุหลักเลย ดังนั้นต้องปรึกษาแพทย์ด้วยเสมอ
- หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่เสี่ยง โดยเฉพาะครีม แป้ง ที่ไม่ได้มาตรฐาน เพราะจะทำให้หน้าคุณที่สวย ๆ พังลงได้ ด้วยเวลาอันรวดเร็ว เพราะนอกจากฝ้าแล้ว อาจจะพบเจอกับ ปัญหาสิวตามมาด้วย
กิน คอลลาเจน ส่งผลให้ผิวสวย
เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้ผิวหน้า รวมทั้งผิวกายของเรา ห่างไกลจากฝ้า กระ จุดด่างดำ เพราะว่าการกิน “คอลลาเจน” เสริมเข้าไป จะทำให้ร่างกายได้รับโปรตีนที่มีประโยชน์ เข้าไปช่วยเสริมสร้างส่วนที่สึกหรอ ของร่างกาย ตัวอย่างเช่น ผิวหน้า กับ ผิวกายของเรา จะต้องมีคอลลาเจน เพราะจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น รักษาโรคผิวหนังอื่น ๆ เช่น ผิวแห้งกร้าน ผิวแพ้ง่าย
สำหรับคอลลาเจนนั้น ส่วนมากจะเป็นอาหารเสริมที่ทำมาจากกระดูกของสัตว์ หนังของวัว เกล็ดปลา จึงเป็นของที่กินได้ ปลอดภัย ไม่แพ้ ทานได้ทุกเพศ ทุกวัย เป็นอาหารเสริมในยุคปัจจุบัน ที่ได้รับความนิยม อีกทั้งเห็นผลว่าผิวสวย ผิวใส สุขภาพดีขึ้นจริง กับ การทานคอลลาเจน นั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่จะช่วยให้สาว ๆ ให้ผิวหน้าสวย สดใส ดูเป็นธรรมชาติ รวมทั้งสุขภาพร่างกายก็แข็งแรงตามไปด้วย
เป็นอีกหนึ่งเรื่องกวนใจสำหรับคุณผู้หญิง ผิวที่เป็นฝ้า หรือ ผิวหน้าที่เป็นกระ ไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น ดังนั้นแล้วเราต้องมองหาวิธีป้องกัน หรือ เคล็ดลับต่าง ๆที่จะช่วยให้ปัญหากวนใจเหล่านี้ ให้หายขาดไปให้จงได้ สำหรับใครที่เคยเป็นฝ้า ได้รับการรักษาแล้วก็ต้องหมั่นดูแลตัวเองให้ดี เพราะฝ้า กับ กระ ไม่ได้หายขาด แต่กลับมาเป็นใหม่ได้ ถ้าคุณยังเป็นเหมือนเดิม ดังนั้นแล้วเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการดูแลตัวเอง ใส่ใจตัวเอง แล้วปัญหาเรื่องนี้จะหมดไป และทั้งหมดนี่ก็คือ วิธีรักษาฝ้ากระให้หายขาด บอกลาปัญหาผิวที่กวนใจสาว ๆ มากที่สุด
อ้างอิงจาก
https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/959
https://www.watsons.co.th/blog/th/skincare-tips-