Browsing Category

sunscreen

sunscreen

กันแดดสําหรับคนเป็นสิว หากคุณมีสิว ให้มองหาส่วนผสมทั้ง 2 ตัวนี้!

July 9, 2021

ความสำคัญของกันแดดที่มีต่อคนเป็นสิว

 เราเข้าใจดีว่าการที่ต้องทาครีมกันแดดทุกวันอาจสร้างความรำคาญเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับคุณได้อย่าง การไม่สบายหน้า รู้สึกหน้าเมือกหน้ามันตลอดเวลาหลังทา แต่เรากำลังจะบอกว่าการทาครีมทุกวันนั้นเหมาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนที่เป็นสิว เพราะใบหน้าที่อ่อนแอของคุณต้องเผชิญกับรังสี UV อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งการสัมผัสโดนรังสี UV อย่างต่อเนื่องทำให้รอยแผลเป็นจากสิวมีรอยดำหรือคล้ำมากขึ้น กระตุ้นการเกิดสิวผด (Mallorcan Acne) เกิดการอักเสบระคายเคืองต่อผิวหน้า และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังในระยะยาวได้

 2 ส่วนผสม ในกันแดดที่เหมาะกับผิวเป็นสิวง่าย

การเลือกซื้อครีมกันแดดสำหรับสำหรับคนเป็นสิว นอกจากจะต้องดูค่า SPF และ PA แล้ว ต้องเลือกประเภทของผลิตภัณฑ์ที่แบ่งตามการออกฤทธิ์ป้องกันผิวด้วย ซึ่งมี 2 แบบ คือ แบบกายภาพ (Physical) และแบบเคมี (Chemical) ซึ่งครีมกันแดดทางกายภาพถือว่าระคายเคืองน้อยกว่าเมื่อเทียบกับแบบเคมี หากคุณใช้แบบเคมีอยู่อาจมีแนวโน้มทำให้ผิวเป็นสิวได้ง่ายขึ้น ที่เกิดจากการระคายเคืองและการอักเสบของผิว ครีมประเภทนี้ก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกัน เช่น หลุดออกง่ายเมื่อมีเหงื่อหรือโดนน้ำ ดังนั้นต้องทาซ้ำบ่อย ๆ เมื่อใช้

หากสภาพผิวมีความบอบบางและมีแนวโน้มที่จะเกิดสิวได้ง่าย ควรเลือกใช้ครีมกันแดดแบบกายภาพที่มีส่วนผสม ซิงค์ออกไซด์ (Zinc Oxide) และไททาเนียมไดออกไซด์ (Titanium Dioxide) หรือ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมทั้ง 2 ตัวรวมกัน

  • ซิงค์ออกไซด์ (Zinc Oxide) : ป้องกันทั้งรังสี UVA และ UVB
  • ไททาเนียมไดออกไซด์ (Titanium Dioxide) : ป้องกัน UVA ได้ดีไม่เท่าซิงค์ออกไซด์ แต่มีความอ่อนโยนต่อผิว

ครีมกันแดดมิเนรัลที่มีส่วนผสมข้างต้นสามารถป้องกันการเกิดสิว ปกป้องผิวจากทั้งรังสี UVA และ UVB จากแสงแดดด้วยวิธีการสะท้อนกลับ เมื่อทาครีมกันแดดแบบ Physical มันจะเคลือบอยู่บนผิวหนัง พอโดนแสงแดดก็จะทำหน้าที่สะท้อนรังสี UV ให้ออกไปจากผิวหนังได้ อย่างไรก็ตามหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่ปรากฎบนฉลากต่อไปนี้

  • น้ำหอม (Fragrance)
  • สารกันเสีย (Paraben)
  • ซิลิโคน (Silicone)
  • แอลกอฮอล์ (Alcohol) – ทำให้ผิวแห้ง
  • โพรพิลิน ไกลคอล, พีจี (Propylene Glycol, PG) – สารก่อการอุดตัน
  • เอโวเบนโซน (Avobenzone) – อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง / อักเสบ

และให้มองหาคำเหล่านี้แทน Non-comedogenic (ไม่มีส่วนผสมที่ทำให้อุดตันรูขุมขน), Non-acnegenic (ไม่ก่อให้เกิดสิว), ปราศจากน้ำหอม (Fragrance-Free), ปราศจากน้ำมัน (Oil-Free), ปราศจากโซเดียมลอริลซัลเฟต (Sodium Lauryl Sulfate : SLS) ทั้งนี้เนื้อสัมผัสกันแดดชนิดแบบนี้ ค่อนข้างเกลี่ยยาก มีความหนาทึบ อาจทิ้งคราบขาวที่ค่อนช้างชัดไว้บนใบหน้าได้ โดยเฉพาะถ้าทาบนผิวเหลืองหรือผิวแทน

แนะนำ 3 กันแดดสำหรับคนเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย

  1. Cetaphil Sun SPF 50+ Light Gel

เซตาฟิล – เวชสำอางแบรนด์ดังจากอเมริกาที่เข้าใจผู้ที่มีผิวบอบบางและแพ้ง่าย ออกผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีชื่อว่า ซัน เอสพีเอฟ 50+ ไลท์เจล ปราศจากสารก่อให้เกิดการระคายเคือง ไม่ว่าจะเป็น พาราเบน และ อิมัลซิไฟเออร์ พร้อมป้องกันรังสี อินฟาเรด ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย ที่สำคัญมีส่วนผสมอย่าง Titanium Dioxide และป็นผลิตภัณฑ์ Hypoallergenic ที่ได้รับการรับรองแล้วว่าใช้แล้วไม่แพ้

Cetaphil Sun SPF 50+ Light Gel

Cetaphil – Sun SPF 50+ Light Gel  (ราคา 1,155 บาท)

  1. Aveeno Positively Mineral Sensitive Skin Sunscreen SPF 50

อาวีโน่ – ครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่าย ยี่ห้อที่คุณหมอที่อเมริกาแนะนำว่าเหมาะกับผู้เป็นสิวมีผิว ผิวบอบบาง แพ้ง่าย เป็นกันแดดที่มี Zinc Oxide มากถึง 21.6% ช่วยต้านการระคายเคือง มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบบอ่อน ๆ ช่วยลดผดผื่นแพ้ และยังมีคุณสมบัติเป็นสารแอนติออกซิแดนท์อีกด้วย

Aveeno Positively Mineral Sensitive Skin Sunscreen SPF 50

Aveeno – Positively Mineral Sensitive Skin Sunscreen SPF 50 (ราคา 750 บาท)

 

  1. CeraVe Hydrating Sunscreen Face Lotion SPF 50

เซราวี – เวชสำอางแบรนด์ดังจากอเมริกา ที่มีขายในไทยตามแพลตฟอร์มช็อปปิ้งออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งตัว Hydrating Sunscreen Face Lotion SPF 50 เรียกได้ว่าเป็นกันแดดสำหรับคนเป็นสิว ผิวบอบบาง แพ้ง่าย ที่มีความน่าสนใจเพราะมีส่วนผสมทั้ง 2 ตัว Zinc Oxide 7% และ Titanium Dioxide 9% มีคุณสมบัติช่วยป้องกันรังสี UV ได้ทุกชนิด เนื้อบางเบา อ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน และไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้

CeraVe Hydrating Sunscreen Face Lotion SPF 50

 

CeraVe – Hydrating Sunscreen Face Lotion SPF 50 (ราคา 740 บาท)

อ้างอิง

sunscreen

กันแดด อาจไม่พอ ควรเสริมพลังการปกป้องให้ผิวเพิ่ม 3 ตัวช่วย

July 9, 2021

แม้จะไม่มีแดดแต่ผิวก็ต้องการ SPF

หลายคนคงรู้อยู่แล้วว่า รังสีในแดดที่เป็นอันตรายต่อผิว คือ รังสี UVA และ UVB การอยู่ท่ามกลางแดดที่ร้อนระอุและนานเกินไปส่งผลให้ผิวถูกทำร้ายอย่างรุนแรง ผิวไหม้แดง และผิวอักเสบ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อผิว DNA ก่อมะเร็งผิวหนัง และทำให้ผิวแก่ก่อนวัย เหี่ยวย่น มีริ้วรอยร่องลึก เกิดจุดด่างดำ หากคุณคิดว่าจะหลบหลีกแสงแดดในฤดูหนาวหรือหลบแดดอยู่ในที่ร่มโดยที่ไม่จำเป็นต้องทา กันแดด คุณอาจคิดผิด! เพราะสถานการณ์ต่าง ๆ ต่อไปนี้ทำให้เห็นว่าแม้ไม่มีแดด รังสีก็สามารถเข้าถึงตัวคุณได้ทุกที่

  1. ในที่ร่ม

รังสี UVA สามารถผ่านทะลุกระจกได้ แม้เราอยู่ในอาคารหรือบ้าน และเข้าสู่ผิวหนังชั้นหนังแท้ของเรา ลอกนึกดูว่าคุณได้ใช้เวลาทั้งวัน อยู่ในห้องที่มีแสงแดดส่องผ่านทางหน้าต่างอยู่ตลอดเวลาใช่หรือไม่? ถ้าคำตอบคือใช่ หมายความว่าคุณได้รับรังสี UVA ในปริมาณที่ใกล้เคียงกับพอ ๆ กับการออกไปอยู่ข้างนอกเลย

  1. ผ่านเสื้อผ้า

หลายคนคงคิดว่าเสื้อผ้าสามารถป้องกันแสงแดดไม่ให้โดนผิวได้ แต่ผ้าที่มีน้ำหนักเบาบางอย่าง ผ้าไหม ผ้าเครป หรือ ผ้าฝ้าย มักปล่อยให้แสงผ่านเข้ามาสู่ผิวของเรา ยิ่งเสื้อผ้าสีอ่อน ยิ่งมีโอกาสดูดแสงเข้าผิวมากขึ้นเท่านั้น ตามหลักการทั่วไปเสื้อยืดสีขาวช่วยกันรังสี UV ได้น้อยมาก เพื่อการปกป้องที่มากขึ้นแนะนำให้สวมเสื้อผ้าที่มีสีเข้มและเป็นผ้าทอเนื้อแน่น เช่น โพลีเอสเตอร์, เรยอน, ผ้าวูล, เดนิม หรือผ้าลูกฟูก

  1. ในฤดูหนาว

ชั้นโอโซนเป็นส่วนหนึ่งของบรรยากาศที่ดูดซับรังสีจากดวงอาทิตย์ เมื่อถึงช่วงฤดูหนาวชั้นโอโซนจะบางลง ส่งผลให้การป้องกันแสงแดดนั้นน้อยลงตามไปด้วย มูลนิธิโรคมะเร็งผิวหนังแนะนำว่าก่อนให้ทาครีมกันแดดทั่วเรือนร่างก่อนแต่งตัว หากไม่มีเวลาจริง ๆ อย่างน้อยควรทาครีมกันแดดแถวบริเวณ หูและคอก่อนออกจากบ้าน

  1. วันที่มีเมฆมาก

แม้ในวันที่แอพพยากรณ์อากาศแจ้งเตือนในมือถือว่า วันนี้เป็นวันที่ท้องฟ้ามีเมฆมาก มันก็ยังคงจะมีรังสียูวีจากดวงอาทิตย์ มากถึง 80% น่าเสียดายที่ในวันที่แม้แต่มีท้องฟ้าครึ้ม ๆ รังสียูวีจากดวงอาทิตย์ก็ยังคงทำงานและมาทำร้ายผิวได้ของเราได้อยู่ดี

  1. บนเขาสูง

ตามรายงานของมูลนิธิโรคมะเร็งผิวหนัง รังสี UVB ในแดดก่อให้เกิดอันตรายและทำให้ผิวไหม้ แม้ว่าจะเล่นสกีอยู่บนเทือกเขามากกว่าการไปพักผ่อนตามชายหาด หิมะสะท้อนรังสีจากดวงอาทิตย์ได้มากถึง 80% ดังนั้นเมื่อคุณไปเที่ยวยอดเขาที่สูงครั้งต่อไป อย่าลืมที่จะทาครีมกันแดดให้ทั่วทั้งใบหน้าเพื่อป้องกันแสง UV ที่เพิ่มขึ้นจากการสะท้อนของดวงอาทิตย์

ปกป้องผิวจากรังสี UV ด้วย 3 ตัวช่วย

 จากข้อมูลข้างต้นไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานการณ์ไหน ฤดูกาลอะไร คุณก็ไม่อาจหลบเลี่ยงรังสีจากดวงอาทิตย์ได้เลย แม้แต่ในฤดูหนาวก็ตาม! ยิ่งอากาศประเทศไทยอยู่ในเขตร้อนชื้น ที่มีแสงแดดแรงทั้งปี สัมผัสได้แต่ความร้อน ร้อนมาก และร้อนที่สุดด้วยแล้ว ยิ่งควรให้ความสำคัญกับการป้องกันผิวจากแสงแดด แน่นอนว่าทุกคนทาครีมกันแดดกันเป็นประจำทุกวัน แต่จะดีกว่าหรือไม่ถ้าเราได้รับการปกป้องผิวจากตัวช่วยอื่น ๆ อีก อย่าง 3 ตัวช่วยดี ๆ เหล่านี้ ที่จะเสริมเกราะป้องกันผิวจากการทำร้ายของแสงแดดและช่วยให้ผิวแข็งแรงห่างไกลจากริ้วรอยก่อนวัย

  • เบสเมกอัพ

ในวันที่ไม่อยากแต่งหน้า แม้แต่การลงรองพื้นเราแนะนำให้เลือกลงเบสเมกอัพที่มีส่วนผสมของ SPF ไม่ว่าจะเป็นทินต์, มอยส์เจอไรเซอร์, บีบี ครีม, ซีซี ครีม หรือเบสเมกอัพอย่างคอเร็กเตอร์ เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันผิวจากการทำร้ายของแสงแดดควบคู่กับกันแดดแล้วยังช่วยให้ริ้วรอยหรือรอยตำหนิต่าง ๆ ดูเรียบเนียนมากขึ้น

เบสเมกอัพ

Chanel – LE BLANC LA BASE SPF 40 (ราคา 2,350 บาท)

  • ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม

ในต่างประเทศมีการจำหน่ายอาหารเสริมและวิตามินเสริม ที่ช่วยในเรื่องของการบำรุงผิวให้แข็งแรงจากภายใน ลดปัญหาผิวอักเสบ ป้องกันการเกิดมะเร็งผิว รวมทั้งผิวเสียจากการเบิร์น สำหรับประเทศไทยนั้นก็มีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ช่วยป้องกันแสงแดดเพื่อผิวกระจ่างใส ปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ อยู่เช่นกัน อย่างไรก็ตามควรใช้กันแดดควบคู่ไปด้วยและพยายามหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม

Serina Sun ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด (ราคา 690 บาท)

  • แป้งฝุ่นกันแดด

เพื่อเป็นการปกป้องผิวจากแสงแดดอีกขั้น หลังลงเบสเมกอัพหรือครีมกันแดดแล้วให้ใช้แป้งฝุ่นที่มีส่วนผสมของสารกันแดด เพื่อทัชอัพระหว่างวันเพียงเท่านี้ก็จะช่วยเสริมพลังการปกป้องแดดแบบคูณสองได้ แนะนำให้เลือกแป้งที่เป็นสูตรมิเนรัล เพื่อช่วยสะท้อนรังสียูวีและลดการอุดตันรูขุมขน

Sea Set & Go Mineral Powder SPF 30 จาก Tart (ราคา 1,100 บาท)

 

อ้างอิง